Saran S. มีเว็บของตัวเองแล้วครับ !

ขณะนี้ผมได้เปิดเว็บของตัวเองแล้วครับ อาจจะไม่ได้เข้ามา Update ข้อมูลใน Blog นี้แล้ว โดยทุกท่านสามารถติดตามเว็บไซต์ใหม่ของผมได้ที่ www.saranslive.com

สวัสดีผู้ที่ "หลงทาง" เข้ามาทุกท่าน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ saranslive Blog ครับ ผมตั้งใจจัดทำ Blog นี้ขึ้น เพื่อนำความรู้จากเหตุการณ์ประทับใจ และประสบการณ์ที่ได้ไปพบเจอ หรือเป็นงานวิชาการที่ได้ทำการศึกษาค้นคว้า มาแบ่งปันในมุมมองของผม ให้ผู้ที่กำลังค้นหาข้อมูลในเรื่องนั้นๆได้นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป อาจดูแล้ว "จับฉ่าย" ไปบ้าง แต่ผมหวังว่าความรู้เล็กๆที่เขียนไว้นี้ จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านบ้างไม่มากก็น้อย และหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถส่ง e-Mail มาได้ที่ saranslive@gmail.com ครับ

Saran S. - [on Blogger since October 2009]

Monday, December 28, 2009

Social Networking ?

เรื่องของ Social Network นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ แต่เป็นเรื่องที่แทรกซึมเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันของเราทีละน้อยแบบไม่รู้ตัวมานานแล้ว เว็บไซต์ที่เราใช้งานเกือบทุกเว็บได้ผันตัวเองจากผู้ให้บริการข้อมูล มาเป็นผู้ให้บริการระบบที่เปิดโอกาสให้สมาชิกได้เข้ามามีส่วนร่วมในการผลิตข้อมูลด้วยตัวเอง (generated content) จนกระทั่งเป็น Social Network Site สมบูรณ์แบบในที่สุด จากข้อมูลเบื้องต้นผมได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Social Network มาให้ได้ศึกษากันครับ

Social Network Service คือ บริการเครือข่ายสังคม Online บน Website ที่เปิดให้ผู้คนหลากหลายเข้ามาใช้บริการร่วมกัน ให้กลุ่มคนเหล่านั้นสามารถทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือเชื่อมโยงข้อมูลกิจกรรมความสนใจในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง โดยในบริการสังคม Online นั้นมักจะประกอบไปด้วย การส่งข้อความ-ภาพ-เสียง-วิดีโอ เป็นต้น

Presentation ของ Commoncraft อธิบายถึงกระบวนการและแนวคิดของ Social Networking ทำให้เราได้เห็นประโยชน์ของระบบสังคม Online มากมาย โดยระบบสังคม Online อาจถูกนำไปใช้ได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา, ด้านมนุษย์วิทยา, ด้านการตลาด หรือแม้กระทั่งการเมืองการปกครอง

เว็บไซต์สังคม Online อาจแบ่งตามรูปแบบการใช้งานได้ ดังนี้
1.) Indentity Network สำหรับการเผยแพร่ตัวตน ได้แก่ myspace - www.myspace.com , facebook - www.facebook.com , Hi5 - www.hi5.com, Twitter - www.twitter.com
2.) Creative Network สำหรับเผยแพร่ผลงาน ได้แก่ YouTube - www.youtube.com , flickr - www.flickr.com , multiply - www.multiply.com , Blogger - www.blogger.com
3.) Interested Network สำหรับกลุ่มคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ได้แก่ digg.com , del.icio.us - http://delicious.com
4.) Collaboration Network สำหรับการทำงานร่วมกัน ได้แก่ Wikipedia - http://th.wikipedia.org
5.) Gaming and Virtual Reality ได้แก่ เกมส์ online ประเภทต่างๆ เช่น Ragnarok , WarCraft

บทสรุป : Social Network เป็นรูปแบบการใช้ชีวิตแบบใหม่ที่ลบขีดจำกัดทางด้านเวลา ระยะทาง และงบประมาณฯ จึงได้รับการตอบรับอย่างรวดเร็ว ซึ่งในประโยชน์ที่มีมากมายนั้น ก็มีโทษแฝงอยู่มากมายเช่นกัน ดังนั้น ก่อนที่เราจะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ Social Network ใดก็ตาม ควรทำการศึกษาสภาพแวดล้อมและกลุ่มประชากรของสังคม Online นั้นๆให้ดีก่อน และใช้วิจารณญาณในการพิจารณาข้อมูลที่ได้รับอย่างถี่ถ้วน

Tuesday, December 22, 2009

Virtual Classroom

จาก Class ของ ผศ.ดร.ศิริรัตน์ เพ็ชร์แสงศรี ได้สั่งให้จัดทำ Presentation เรื่อง ห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) ผมจึงได้ทำการหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาทำสรุปให้ได้อ่านกัน เผื่อท่านใดสนจะได้นำไปใช้ประโยชน์ครับ ...

ห้องเรียนเสมือน (Virtual Classroom) หมายถึง การเรียนการสอนผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์โดยใช้ช่องทางของระบบการสื่อสารและอินเทอร์เน็ต ผู้เรียนสามารถใช้คอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตเข้าไปเรียนในเว็บไซต์ ที่ออกแบบกระบวนการเรียนการสอนให้มีสภาพแวดล้อมคล้ายกับเรียนในห้องเรียนแบบปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนและผู้เรียนกับผู้เรียน โดยมีบรรยากาศเสมือนพบกันจริง กระบวนการเรียนการสอนจึงไม่ใช่การเดินทางไปเรียนในห้องเรียนแต่เป็นการเข้าถึงข้อมูลเนื้อหาของบทเรียนได้โดยผ่านคอมพิวเตอร์

ห้องเรียนเสมือน เป็นการจัดสิ่งแวดล้อมในความว่างเปล่า (space) โดยอาศัยศักยภาพของเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เพื่อให้เป็นการจัดประสบการณ์เสมือนจริงแก่ผู้เรียน นอกจากนั้นยังมีสิ่งสนับสนุน อื่น ๆ ที่จะช่วยทำให้การมีปฏิสัมพันธ์แบบเผชิญหน้า ซึ่งบางโอกาสอาจจะเป็นไปไม่ได้หรือเป็นไปได้ยากนั้น สามารถกระทำได้เสมือนบรรยากาศการพบกันจริง ๆ

กระบวนการทั้งหมดดังที่กล่าวมานี้ มิใช่เป็นการเดินทางไปที่โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย แต่จะเป็นการเข้าถึงด้านการพิมพ์ การอ่านข้อความ หรือข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์ที่มีซอฟแวร์ เพื่อควบคุมการสร้างบรรยากาศแบบห้องเรียนเสมือน การมีส่วนร่วมจะเป็นแบบภาวะต่างเวลา ซึ่งทำให้มีผู้เรียน ในระบบห้องเรียนเสมือนสามารถเชื่อมต่อเข้าไปศึกษาได้ทุกที่ทุกเวลา

ทำไมต้องมี Virtual classroom ?
1. แก้ปัญหาจากการมีข้อจำกัดด้านสถานที่
2. ลดปัญหาจากการเรียนรู้ที่จำกัดเฉพาะกับครูกับผู้เรียน
3. เพิ่มเวลาการเรียนการสอนที่มีไม่เพียงพอ
4. เพิ่มโอกาสในการเรียนการสอน
5. ช่วยแก้ไขสัดส่วนของครูและนักเรียนที่ไม่เหมาะสม

การจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนเสมือน นับเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาที่ช่วยลดข้อจำกัดในด้านต่าง ๆ ทางการศึกษาได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้เรียนสามารถเลือกเรียนได้ตามความพอใจ ตามความพร้อมทั้งทางด้านเวลา สถานที่และความสามารถทางสติปัญญา การเรียนการสอนแบบห้องเรียนเสมือนนี้สามารถจัดได้ทั้งแบบการศึกษาในโรงเรียน นอกโรงเรียน และการศึกษาตามอัธยาศัย ส่งผลให้คนส่วนใหญ่สามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต

ขอบคุณข้อมูลหลายที่มาบนโลก Internet ครับ

Friday, December 18, 2009

Twitter !

Twitter เป็นเครือข่ายสังคม Online ที่จัดอยู่ในประเภทไมโครบล๊อก (Micro Blogging) ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนสื่อสารด้วยข้อความสั้นๆ เรียกว่าการ Tweet โดยในการ Tweet 1 ครั้ง สามารถส่งข้อความเป็นตัวอักษรได้ไม่เกินครั้งละ 140 ตัวอักษร และข้อความที่ถูกส่งจะถูกดึงไปแสดงในหน้าเว็บเพจของผู้โพสต์และผู้ที่ติดตามเป็นสมาชิก หรือที่เรียกว่า Followers

ความสามารถของ Twitter !
  • สามารถใช้ส่งข้อความข่าวสารสั้นๆ เพื่อหาพ้องเพื่อนและติดตามว่าเค้าเหล่านั้นทำอะไรอยู่
  • สามารถได้เพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้น หรืออาจพบเจอเพื่อนเก่าๆที่ขาดการติดต่อหรือไม่ได้เจอกันมานาน
  • สามารถใช้แสดงความคิดเห็นในเรื่องราวที่เกิดขึ้น หรือที่เราสนใจกับเพื่อนสมาชิก
  • สามารถใช้เป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
  • สามารถใช้ในการปลุกกระแสทางการเมือง 555+
Twitter เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2006 โดยบริษัท Obvious Corporation พัฒนาขึ้นโดย 3 Programmer คือ Jack Dorsey, Biz Stone และ Evan Williams

Twitter ถูกพัฒนาขึ้นด้วย Ruby on Rails จนถึงปี 2008 จึงได้เปลี่ยนมาใช้เป็นภาษา Scala บนแพลตฟอร์ม JAVA

Twitter ได้รับความนิยมสูงมากในปี 2009 จนกระทั่งนิตยสาร Time ฉบับวันที่ 15 มิ.ย. 2009 ได้นำ

Twitter ขึ้นปกเป็นเรื่องเด่นประจำฉบับ และได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอข่าว ที่มีที่มาจากเทคโนโลยีใหม่อย่าง Twitter

Monday, December 07, 2009

King Bhumibol

หลังจากหายไปหลายวันเนื่องจากติดตาม อ.เสวี เดินทางไปจัดกิจกรรมสัมมนาพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้กับสำนักงานสภาทนายความ ณ จังหวัดระยอง ซึ่งในการเดินทางครั้งนี้ตรงกับ "วันพ่อ 5 ธันวา" พอดี จึงทำให้วันพ่อในปีนี้ผมต้องกลับมาอยู่กับคุณพ่อช้าไป 1 วัน แต่ก็ทำให้ปีนี้ผมได้มีโอกาสจุดเทียนชัยถวายพระพรริมชายหาดร่วมกับพี่น้องสภาทนายความเกือบ 100 ชีวิต ทำให้ได้บรรยากาศดีๆไปอีกแบบครับ ในขณะที่ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้น ก็ฉุกคิดสงสัยว่าพระนามของในหลวงของเรามีที่มาที่ไปอย่างไร พอกลับมาถึงกรุงเทพฯจึงได้ทำการสืบค้นข้อมูลมาเล่าต่อให้ได้ทราบกันครับ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จขึ้นครองราชย์ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 จนถึงปัจจุบัน ทรงพระสถานะเป็นประมุขแห่งรัฐตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่มีพระชนมชีพอยู่และทรงอยู่ในตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก และเสวยราชย์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วยเช่นกัน

พระองค์ทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า "สมเด็จพระภัทรมหาราช" ซึ่งมีความหมายว่า "พระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่ง" ต่อมาได้มีการถวายพระราชสมัญญาใหม่ว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช" เมื่อ พ.ศ. 2539 และ "พระภูมิพลมหาราช" อนุโลมตามธรรมเนียมเช่นเดียวกับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงได้รับพระราชสมัญญาว่า "พระปิยมหาราช" อนึ่ง ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกพระองค์ว่า "ในหลวง" คำดังกล่าวคาดว่าย่อมาจาก "ใน (พระบรมมหาราชวัง) หลวง" บ้างก็ว่าเพี้ยนมาจากคำว่า "นายหลวง" ซึ่งแปลว่าเจ้านายผู้เป็นใหญ่

พระนาม "ภูมิพลอดุลเดช" นั้น พระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ซึ่งในระยะแรกสะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุลยเดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกดตราบปัจจุบัน

ทั้งนี้ เดิมที ด้วยเหตุที่ได้รับตัวโรมันว่า "Bhumibala" สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจึงทรงเข้าพระทัยว่า ได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล" ต่อมาจึงเปลี่ยนการสะกดเป็น "Bhumibol"

ข้อมูลจาก Wiki : th.wikipedia.org/wiki/KingBhumibol

Thursday, December 03, 2009

What's World Wide Web ?

เวลาผ่านไปเร็วเหมือนสายลมนี่ก็เข้าเดือนธันวาคมแล้วนะครับ หลังจากไม่ได้ Updates Blog มาเกือบสัปดาห์เพราะไปเล่น Social Network น้องใหม่ในนาม "PG" หรือ "Playground" ของเล่นใหม่โดยคนไทยในโลกของ World Wide Web ซึ่งหลังจากที่ผมได้ทำการใช้งานมากว่า 1 สัปดาห์ พบว่าในการวางรูปแบบ Function การใช้งานต่างๆทำได้ดีน่าใช้ครับ และจุดขายที่สำคัญคือความสามารถในการเชื่อมต่อของ Mobile Application ใช้งานง่ายมากๆ อีกทั้งยัง Load เร็ว เพราะเป็น Domastic Host หากสนใจสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.pg.in.th/ ครับ หรือลองเข้าไปชม PG Blog ของผมได้ที่ http://saranslive.pg.in.th/ ครับ

ถ้าพูดถึงคำว่า World Wide Web [www] ในปัจจุบันคงไม่มีใครบอกว่าไม่รู้จักแน่ๆ แต่ทราบมั้ยครับว่า www นั้นมีกระบวนการการทำงานอย่างไร ? โครงสร้างของการส่งข้อมูลหรือการเรียกดูข้อมูลผ่าน Web Browser นั้นทำได้อย่างไร ? วันนี้ผมไปค้นเจอ VDO Presentation ที่นำเสนอเกี่ยวกับกระบวนการการทำงานของ World Wide Web มาฝากให้ชมกันครับ


เรื่องที่เกี่ยวข้อง Protocal , TCP/iP

Monday, November 30, 2009

Cartoon Chai Ratchawat

วันนี้ได้อ่านเจอการ์ตูนของ "ชัย ราชวัตร" จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐแล้วรู้สึกขำดีครับ ที่ท่านสามารถนำเสนอเรื่องราวน่าหดหู่ของการเมืองในมุมมองที่ทำให้เรานึกขำได้ ไปค้นเจอบางตอนจึงนำมาฝากครับ แต่เกือบทุกตอนที่ผมได้อ่านเมื่ออ่านจบแล้วมักจะเกิดความคิดว่า "เออ ก็จริงเนอะ" !

ประวัติ Chai Ratchawat (ชัย ราชวัตร) ... จาก iGoogle
เป็นนักเขียนการ์ตูนวิจารณ์สังคมที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย ผลงานของเขาได้รับการตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของประเทศ สไตล์ อารมณ์ขัน และรูปแบบของเขามีชื่อเสียงจนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชโปรดเกล้าฯ ให้เขาวาดภาพประกอบในงานพระราชนิพนธ์

Saturday, November 28, 2009

Google Tricks and Tips

กลับมาแล้วครับหลังจากหายไปหลายวัน ช่วงนี้ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องงานกำลังมากมายสุดๆครับ แถมยังต้องวางแผนการขึ้นเหนือไปดูงาน Project Industrial Sociology (จริงๆก็ไปเที่ยวแหล่ะครับ ... 555+) เลยทำให้ความถี่ในการ Updates Blog ลดลงไปบ้าง วันนี้ผมไปค้นเจอ VDO Presentation เรื่อง Tricks and Tips แนะนำวิธีการใช้งาน Google Search ในเชิงลึกไม่ว่าจะเป็น Google Calculator, What's my Time., Local Movie Showtime., Airline Flight, Search by site Type. เป็นต้น จึงนำมาฝากไว้ให้ชมกันครับ ดูแล้วจะพบว่า Google นั้นทำอะไรได้มากกว่าที่คิดไว้เยอะเลยครับ

ผมได้ทดลองใช้ทุก Function พบว่าใช้ได้ดีทีเดียว เหมาะมากสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนเมื่อเราไม่มีโปรแกรมที่จะทำงานนั้นๆครับ

Tuesday, November 24, 2009

Search Twitter

วันนี้เอาใจสาวก Twitter ครับ กับเรื่องราวของ ... Search Twitter !!! Search Twitter เป็นเว็บไซต์เครื่องมือที่ใช้สำหรับค้นหาข้อความที่ผู้คนกล่าวถึงหรือชื่อคนในระบบ Twitter ทั้งหมด ใน Concept See what's happening right now. โดยสามารถเข้าไปใช้งานได้โดยการพิมพ์ http://search.twitter.com ครับ

ผมไปเจอ Presentation ของ Commomcraft ที่อธิบายเกี่ยวกับการทำงานของ Search Twitter ทำได้ดีมากดูแล้วเข้าใจง่าย สามารถคลิกที่ปุ่ม Play ด้านล่างเพื่อรับชมได้ทันทีครับ

Function การทำงานหลักของ Search Twitter ได้แก่ ค้นหาข้อความ คล้ายกับ Search Engine ทั่วไป เพียงแต่ว่าจะเจอเฉพาะข้อความที่ถูก Tweet ในระบบ Twitter เท่านั้น เช่น หากผมต้องการจะค้นหาว่าตอนนี้มีใครกล่าวถึงในหลวงของเราอยู่บ้าง ผมก็แค่พิมพ์ Keyword คำว่า "ในหลวง" ลงใน Search Box เท่านั้น Tweet ทั่วโลกที่มีคำว่า "ในหลวง" ก็จะถูกนำขึ้นมาแสดงทันทีโดยเรียงจากลำดับเวลาในการ Tweet

นอกจากค้นหาด้วย Keyword ธรรมดาแล้ว ใน Search Twitter ยังมีระบบค้นหาแบบ Advance Search ที่สามารถค้นหาได้จาก Words, People, Places, Dates และ Attitudes อีกด้วย

TIP ! แนะนำสำหรับการ Tweet แบบหวังผลครับ เพื่อให้คนอื่นสามารถค้นหา Tweet ของคุณได้โดยง่าย คุณสามารถใส่เครื่องหมาย hashtag (#) ไว้หน้าหัวข้อสำคัญใน Tweet ของคุณ เมื่อมีคนค้นหา Keyword นั้นๆจาก Search Engine ก็จะสามารถพบเจอ Tweet ของคุณได้โดยง่ายครับ

Monday, November 23, 2009

The Greatest of the Kings

เนื่องในโอกาสมหามงคล ในหลวงของเรา เฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ผมได้รวบรวมสารคดีเฉลิมพระเกียรติฯ "๙ คำพ่อสอน" ซึ่งเป็นการนำพระบรมราโชวาทที่ในหลวงทรงประทานไว้ให้ปวงชนชาวไทยในโอกาสต่างๆ และมีการนำมาจัดทำเป็นสารคดีสั้นๆ มาให้ได้ชมกันครับ ดูแล้วทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้จริงๆครับ


"ความเพียร"
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์
ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ วันที่ 27 ตุลาคม 2516

"การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันควรทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีควรต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง"

"ความพอดี"
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น
วันที่ 18 ธันวาคม 2540

"ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน"

"ความรู้ตน"
พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521

"เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน"

"คนเราจะต้องรับและจะต้องให้"
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น
วันที่ 20 เมษายน 2521

"คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้"

"อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ"
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ 25 มิถุนายน 2496

"ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม"

"พูดจริง ทำจริง"
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ 10 กรกฎาคม 2540

"ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม"

"หนังสือเป็นออมสิน"
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ
ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514

"หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้"

"ความซื่อสัตย์"
พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี 2531
"ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง"

"การเอาชนะใจตน"
พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน ในพิธีเปิดการประชุมฯ

"ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ"

หากต้องการชม VDO เพิ่มเติม ผมได้เรียบเรียงไว้สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.youtube.com/saranslive ครับ

Sunday, November 22, 2009

Kick Download Youtube

หลายครั้งที่เราชม VDO ใน Youtube แล้วอยาก Download มาเก็บไว้ดูหรือนำไปใช้งานต่อ แต่ก็อาจไม่ทราบว่าจะ Download ได้อย่างไร จริงๆแล้วมีมากมายหลายวิธีที่จะ Download VDO จาก Youtube แต่วันนี้ผมมีวิธีที่จะ Donwload แบบง่ายๆที่ไม่ต้องใช้โปรแกรมเสริมใดๆ มาให้ลองใช้กันครับ ...

ก่อนอื่นให้เปิดหน้าเว็บของ Youtube ที่มี VDO ที่เราต้องการจะ Download

จากนั้นให้แก้ไข Url ในช่อง Address โดยใส่คำว่า "kick" หน้า Url
จะเข้าสู่หน้าเพจ Kick Youtube

จากนั้นให้เลือกชนิดของ file ที่ต้องการ Download แล้วกดปุ่ม Go ...
รอสักครู่ ปุ่ม Go จะเปลี่ยนเป็นปุ่ม Download ให้คลิก Mouse ขวาที่ปุ่ม Download และเลือก Save Target As ...

ให้เลือก Drive ที่จะทำการ Save file และแก้ไขชื่อ file
จากนั้น กดปุ่ม Save เมื่อ Download เสร็จก็เป็นอันเรียบร้อยครับ

Friday, November 20, 2009

Edit CSS Style for IE7 Vista

หลายคนคงเจอปัญหา Font ของ Internet Explorer ใน Windows Vista ดูไม่สวยใช่มั้ยครับ ? เข้าบางเว็บตัวอักษรยังกระโดดและเว้นช่องห่าง วันนี้ผมไปสอบถามผู้รู้ จึงได้วิธีแก้ไขปัญหาโดยการกำหนด CSS Style ให้กับ IE ของเรา มีวิธีการทำได้ง่ายๆดังนี้ครับ

เลือกไปที่ Manu Bar > Tool > Internet Option จะเปิดหน้าต่างนี้ขึ้นมา

จากนั้นให้คลิกเลือกที่ Accessibility จะขึ้นหน้าต่างซ้อนมาดังรูปครับ


Accessibility ในส่วนของ Formatting ให้เลือกที่ Ignore font style specified on webpage ครับ และในส่วนของ User Style sheet ให้คลิกเลือกที่ Format documents using my style sheet เพื่อเลือกกำหนด Fomat ของ Style sheet ของเราเอง โดยให้ทำการ Download CSS Style ได้โดย คลิกที่นี่ ! ครับ ไฟล์ที่ Download ไปนั้นจะเป็นไฟล์ นามสกุล .rar นะครับ ให้ทำการแตก Zip จะเจอไฟล์ชื่อ sty_for_sibaweb.css สามารถเข้าไปแก้ไขชื่อ Font เป็นไปตามที่เราต้องการได้นะครับ ปกติจะใช้เป็น Ms Sans Serif หรือ Tahoma ครับ เมื่อแก้ไขเสร็จแล้วให้ทำการ Save และนำไฟล์นี้ไปไว้ใน Drive C > Windows จะได้ไม่ไปเผลอลบครับ จากนั้นให้ทำการ Browse ... เลือก Style Sheet นี้มาใช้ ก็เป็นอันเสร็จ แล้วเราก็จะได้ความสวยงามของ Font ใน Internet Explorer เป็นไปตาม Style Sheet ที่เรากำหนดครับ

Wednesday, November 18, 2009

CBL Seminar by Apple

[18/11/2009] ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานสัมมนา Challenge Based Learning ที่จัดขึ้นโดย Apple และ Dash Thailand ณ โรงแรม Centara Grand CentralWorld เพื่อทำการเผยแพร่วิธีการเรียนการสอนแบบใหม่ ที่ใช้การผสมผสานสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศบนโลก Internet ในการปรับรูปแบบการเรียนรู้ ผ่านเทคโนโลยีที่ทันสมัยของ Mac ได้อย่างลงตัว

ในงานทาง Apple ได้จัดเตรียมอุปกรณ์ MacBook มาให้ผู้สัมมนาได้ทดลองทำ Workshop กันอย่างจุใจเต็มรูปแบบ ผมเองที่เป็นคนที่ถนัดใช้งานแต่ Windows เลยงงๆอยู่บ้างในช่วงแรก แต่วิทยากรให้ความรู้ได้อย่างดีครับ ทีมงานแนะนำตลอด งานนี้จึงเป็นงานที่ได้แลกเปลี่ยน Vision และได้รับความรู้จากการใช้ประโยชน์จาก Mac เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนได้เยอะจริงๆ อาทิ การปรับรูปแบบการเรียนรู้ผ่าน Wiki Blog โดยใช้ iMovie ผลิตสื่อการเรียนรู้ ฯลฯ จบงานนี้ทำให้ผมคิดว่าอยากเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีของ Mac เพื่อพัฒนารูปแบบการเรียนรู้อย่างจริงจังเลยทีเดียว

ช่วย Promote ให้ครับ สำหรับผู้ที่สนใจอยากได้ข้อมูลโครงการนี้เพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่ http://ali.apple.com/cbl หรือ www.dashthailand.com ครับ



บรรยากาศการทำ Workshop ในห้องสัมมนา Lotus12


ภาพถ่ายจากกล้อง VDO ของเครื่อง MacBook Pro ชัดใสจริงๆ


งานนี้เจ้าภาพเลี้ยงดี ที่ Gingle อิ่มกันถ้วนหน้าครับ ^o^

Monday, November 16, 2009

What is Tweetree ?

หลายคนคงเคยเล่นและได้รู้จักโปรแกรม Micro blog ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Twitter.com กันอยู่บ้างแล้ว เรื่องราวของ Twitter นั้น ถ้า Search ใน Google.com ก็จะพบว่ามีคนนำมาเขียนอธิบายเยอะมาก ดังนั้นใน Blog ของผมจะไม่พูดถึงเรื่องการใช้งาน Twitter ทั่วไปนะครับ แต่จะขอกล่าวถึงวิธีใช้งาน Twitter เฉพาะทางในแบบต่างๆกันไปเลย ...

Twitter ที่เราใช้กันอยู่นั้นโดยปกติจะสามารถ Tweet ได้ข้อความละ 140 ตัวอักษรต่อครั้ง ถ้าหากเราจะนำรูปไปขึ้นบน Twitter นั้น ก็จะขึ้น Show เป็นได้แค่ Link ที่ต้องกดเข้าไปเพื่อชมภาพอีกที ไม่สามารถนำภาพหรือ VDO มา Show ได้เลย ข้อจำกัดเหล่านี้คงไม่ถูกใจใครหลายคนโดยเฉพาะน้องๆวัยรุ่น

จากข้อจำกัดในเบื้องต้น Twitter จึงจัดสร้าง Tweetree.com ขึ้นมา โดย Tweetree มีความสามารถนำ file รูปภาพหรือวีดีโอ มาขึ้นแสดงในหน้าแรกของ Twitter เพื่อให้ผู้ชมดูได้ทันที ไม่ต้องคลิกต่อให้เสียเวลาครับ คนที่ชอบการใช้งานลักษณะนี้ สามารถเข้าใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านทางหน้า Browser โดยใช้ Url คือ http://tweetree.com/<ชื่อ User ของเรา>


เมื่อเราทำการ Sign in เข้าสู่ระบบ Tweetree แล้ว ในหน้า Home ของ Tweetree นั้นจะแสดงตามรูปข้างต้นครับ โดยจากรูปจะเห็นว่าสามารถแสดง file แนบ ที่เราทำการ Tweet ไว้ หรือเราสามารถเห็น file แนบในข้อความของคนที่เรา follow ได้ทันทีไม่ว่าจะเป็น รูปภาพหรือวีดีโอ อีกทั้งยังสามารถเห็น Url เต็มของ Link ที่ซ่อนไว้อีกด้วย

ใน Tweetree.com จะมี Mentions of ๑ ...... ที่จัดกลุ่มให้เราเห็นหัวข้อที่เรา Post Reply กลับไป แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้อความ ทำให้ง่ายต่อการอ่านและทำให้สะดวกในการใช้งาน ตามรูปข้างล่างครับ

ตัวอย่าง Twitter ของผม เมื่อเข้าใช้งานผ่านทาง Tweetree.com สามารถเข้าชมได้ที่ http://tweetree.com/saranslive ครับ

Sunday, November 15, 2009

Release Evaluation Doc. 1

[15/11/2009] ได้เข้า Present งาน ป.โท เรื่อง Model Evaluation L.Cronbach วิชา Evaluation System and Activities for Vocational Education. วิชานี้ละเอียดมากครับ ค่อนข้างยากต้องท่องข้อมูลให้แม่นและวิเคราะห์ให้ขาด Present เสร็จแล้วเลยนำข้อมูล PowerPoint มาปล่อยให้รุ่นน้องรุ่นพี่ที่เรียนวิชานี้ได้ Download ไปอ่านกันครับ





Download file นี้ คลิกที่นี่ !

มีของแถมเพิ่มครับ ! ผมรวบรวม Presentation ของเพื่อนๆที่นำเสนอรูปแบบการประเมินอื่นๆ มาให้ Download ไปศึกษากันด้วย ตาม Link ด้านล่างนี้ครับ

Ralph W. Tyler , Michael Scriven , CIPP Model (D.L.Stufflebeam) , Kirkpatrick , Robert E. Staek

หากเข้า Download ข้อมูลไม่ได้ สามารถส่ง e-Mail มาได้ที่ saranslive@gmail.com เดี๋ยวส่ง File ให้ครับ

Friday, November 13, 2009

whois ?

คนที่ใช้งาน Website เป็นประจำหลายคนคงเคยอยากรู้ว่า Website ที่เราเข้าไปใช้บริการ หรือ Domain Name นั้นๆใครเป็นเจ้าของ ? วันนี้ผมจะเอาวิธีตรวจสอบ Domain Name ด้วยคำสั่งง่ายๆที่เรียกว่า whois มาแนะนำให้ครับ

whois เป็นคำสั่งสำหรับระบบปฏิบัติการ Unix หรือ Linux ที่ใช้สำหรับสอบถามเจ้าของ Domain ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องไว้กับ Register ต่างๆทั่วทุกมุมโลก ส่วนในระบบ Windows นั้น จะไม่มีโปรแกรม whois ติดมาให้ แต่สามารถ Download ได้ที่ www.sysinternals.com เมื่อ Download มาแล้วให้นำ file นั้นไปใส่ใน foder C:\Windows\System32 แล้วเรียกใช้งานโดย Run cmd.exe แล้วพิมพ์คำสั่ง whois <ตามด้วย Domain Name ที่ต้องการค้นหา>

ในการเรียกใช้งานคำสั่ง whois นั้น จะเป็นการเรียกใช้งานผ่าน whois Server ซึ่งคือ Server ที่ใช้เป็นฐานข้อมูล โดยเราอาจจำเป็นที่ต้องใส่ต่อท้ายคำสั่งด้วย เช่น whois.thnic.net เป็นต้น แต่ถ้าไม่ใส่ชื่อ Server ต่อท้ายคำสั่ง ระบบก็จะเรียกใช้งานผ่านไปยัง whois Server ของผู้ให้บริการ Internet ที่เราใช้เชื่อมต่อสัญญาณแทน

whois Server จะใช้ Port 43 ในการให้บริการ

แต่หากว่าเราไม่สะดวกที่จะลงโปรแกรม whois ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็สามารถใช้บริการจาก Website ของผู้ให้บริการจดทะเบียน Domain Name ได้ทั่วไปได้ครับ โดยอาจค้นหาจาก Google.com พิมพ์ Serach Keyword คำว่า "whois" ก็จะพบกับผู้ให้บริการตรวจสอบ whois มากมาย ตัวอย่าง Website ที่ให้บริการตรวจสอบ whois ที่ได้รับความนิยม ได้แก่ www.who.is , www.whoisworld.org , www.zoneedit.com เป็นต้น

Thursday, November 12, 2009

TCP/iP Protocal

หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า TCP/iP แต่อาจจะยังไม่เข้าใจถึงโครงสร้างและที่มาที่ไป ในตอนนี้ผมจะขอสรุปสั้นๆ แบบเข้าใจง่ายๆให้ครับ

TCP/iP Protocal (Transmission Control Protocal / Internet Protocal) มาจากชื่อ Protocal ย่อย 2 ตัวมารวมกัน คือ TCP และ iP แต่ไม่ได้หมายความว่า TCP/iP จะประกอบด้วย TCP และ iP เพียง 2 ตัวเท่านั้น แต่ยังมี Protocal อื่นๆเกี่ยวข้องอีกหลายตัว โดยถูกกำหนดเป็นมาตรฐาน TCP/iP Model

TCP/iP Model ประกอบด้วย Protocal Suite หรือ Protocal Stack 4 ระดับ ที่จะต้องทำงานร่วมกันอย่างมีระบบ จากการเปรียบเทียบโครงสร้างของ TCP/iP Model กับ OSI Model พบว่า TCP/iP มีโครงสร้างที่น้อยกว่า เป็นเพราะว่า TCP/iP เป็น Protocal ที่ใช้มาก่อนที่จะมี OSI Model นั่นเอง

Type of Server Machine

เมื่อเรารู้จักที่มาที่ไปของ TCP/iP แล้ว ต่อไปนี้จะเป็นการทำความรู้จักกับ Server ชนิดต่างๆที่ทำงานอยู่บนพื้นฐานของ TCP/iP กันครับ

1.) DNS Server คือ โปรแกรมที่ให้บริการในการแปลง Domain Name เป็นเลข iP Address

2.) DHCP Server คือ โปรแกรมที่ให้บริการด้านการจ่าย iP Address จากฐานข้อมูลกลางโดยอัตโนมัติ ให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่นๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ในระบบเครือข่าย


3.) WEB Server คือ Server ที่ให้บริการ World Wide Web โดยใช้ Protocal HTTP (Hypertext Transfer Protocal) บางครั้งจึงอาจเรียกว่า HTTP Server ทั้งนี้ WEB Server จะใช้ Port 80 เป็นมาตรฐานในการให้บริการติดต่อกับเครื่องลูกข่ายโดยใช้ Browser ได้แก่ Internet Explorer, Firefox เป็นต้น

4.) FTP Server คือ เซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการโอนถ่าย File ข้ามเครื่อง โดยอาศัย Protocal FTP (File Transfer Protocal)

5.) Telnet Server คือ เซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการใช้หน้าจอระยะไกล หรือ Remote Terminal โดยใช้ Protocal Telnet และใช้ Port 23 เป็นช่องทางมาตรฐานในการให้บริการ โดยการทำงานของ Telnet จะเป็นแบบ Text Mode

6.) Mail Server คือ เซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการรับ/ส่ง e-Mail โดย Mail Server จะทำงานร่วมกับ Mail Client โดยประกอบด้วย Server 2 ส่วนทำงานร่วมกันได้แก่ SMTP Server + POP3 Server

7.) NFS Server คือ เซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่ให้บริการ Shaire File สำหรับเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Unix หรือ Lenux แต่ในปัจจุบันเครื่องที่ใช้ระบบ Windows ก็สามารถใช้บริการได้ โดยต้องติดตั้งโปรแกรม NFS Server และจะใช้ Protocal NFS (Network File System) ทำงานโดยใช้ Port 2049 ในการให้บริการ

8.) WINS Server คือ Windows Internet Name System Server เป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่ทำหน้าที่ในการให้บริการแปลงชื่อในระบบของ NetBIOS ให้กลายเป็น TCP/iP

7 Layer on OSI Model

โครงสร้างของโมเดล OSI ทั้ง 7 ชั้น มีรายละเอียด ดังนี้

Application Layer - เป็นชั้นบนสุดของ OSI Model คำว่า Application ในที่นี้หมายถึง ข้อกำหนดหรือวิธีการที่แอพพลิเคชั่นหรือโปรแกรมหรือแม้แต่ตัวระบบปฏิบัติการ จะใช้ติดต่อสั่งการหรือขอใช้บริการต่างๆ

Presentation Layer - เป็นชั้นที่ว่าด้วยการจัดรูปแบบที่รับมาจาก Session Layer ให้อยู่ในรูปแบบที่ Application แต่ละตัวจะสามารถเข้าใจได้ โดยจะช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการต่างๆชนิดกันสามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่มีปัญหา นอกจากนี้ยังให้บริการถอดหรือเข้ารหัสข้อมูลบางประเภทอีกด้วย

Session Layer - เป็นชั้นที่ว่าด้วยการจับคู่หรือเชื่อมโยง Application ที่อยู่ต่างเครื่องกัน เพื่อให้สามารถแยกแยะได้ว่าข้อมูลที่ได้รับมานั้น ควรเป็นของ Application คู่ไหน ทำให้เราสามารถเรียกใช้โปรแกรมในการสื่อสารพร้อมกันได้หลายๆตัว เช่น เราสามารถเปิดโปรแกรม Brownser พร้อมๆกันกับการอ่านโปรแกรม e-Mail เป็นต้น

Transport Layer - เป็นชั้นที่ว่าด้วยการแบ่งข้อมูลที่รับมาจาก Session Layer ซึ่งโดยมากจะมีขนาดใหญ่ให้เป็นแพ็คเก็ตขนาดคงที่ ก่อนจะส่งต่อให้ชั้น Network Layer ส่วนในแง่ของการรับข้อมูลนั้น ก็จะทำหน้าที่ประกอบแพ็คเก็ตให้กลับมาเป็นข้อมูลดังเดิม นอกจากนั้นยังมีหน้าที่ตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดจากการจัดลำดับความเร่งด่วนของแพ็คเก็ตและควบคุมความเร็วในการรับส่งแพ็คเก็ตอีกด้วย

Network Layer - เป็นชั้นที่ว่าด้วยการกำหนดหมายเลขประจำเครื่อง เพื่อใช้อ้างอิงหรือแยกแยะความแตกต่างของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แต่ละตัวในระบบเครือข่าย โดยหมายเลขเครื่องดังกล่าวนี้จะจับคู่กับหมายเลข MAC Address ที่ใช้อ้างอิงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในชั้นของ Data Link และยังรับผิดชชอบการกำหนดเส้นทางของการลำเลียง Packet อีกด้วย

Data Link Layer หรือ DLL - เป็นชั้นที่ว่าด้วยการควบคุมการรับส่งข้อมูลโดยผ่านสื่อประเภทต่างๆ ซึ่งขึ้นอยู่กับ Protocal หรือชนิดของเครือข่ายที่ใช้

Physical Layer - เป็นชั้นล่างสุดที่ว่าด้วยการติดต่อระหว่าง Hardware และการกำหนดลักษณะทางกายภาพของสื่อต่างๆที่ใช้ในการรับส่งข้อมูล เช่น การใช้สายสัญญาณหรือ Connecter แบบไหน เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำหน้าที่รับข้อมูลที่ส่งต่อมาจากชั้น Data Link เพื่อส่งออกไปยังระบบเครือข่าย โดยข้อมูลที่มาจากชั้นของ Data Link นั้นจะถูกมองเป็นรูปแบบที่เป็นบิตเรียงกัน ไปในลักษณะ 0 หรือ 1 ที่เรียกว่า Binary Notation ก่อนที่จะแปลงสัญญาณไฟฟ้าที่แทนค่า Binary ออกสู่ระบบเครือข่าย

Tuesday, November 10, 2009

Protocal ...

ในหัวข้อก่อนหน้านี้ผมได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องของ iP Address ไปแล้ว ในตอนนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังถึงจุดแรกเริ่มในเรื่องของ Protocal เพื่อขยายความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการสื่อสารของคอมพิวเตอร์กันครับ

โปรโตคอล (Protocal) คือ ข้อกำหนดหรือข้อตกลงในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ โดยเปรียบได้กับภาษาของมนุษย์ที่มีหลากหลายวิธีในการสื่อสาร ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป โดยปกติในการสื่อสารนั้นถ้าจะให้รู้เรื่องทั้ง 2 ฝ่ายก็มักจะต้องสื่อสารด้วยภาษาเดียวกัน แต่ในบางกรณีก็สามารถสื่อสารคนละภาษาได้โดยใช้ล่ามเป็นผู้เชื่อมต่อ

สำหรับ Protocal ที่นิยมใช้อยู่และเป็นที่ยอมรับแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบันโดยเฉพาะเครือข่ายอินเตอร์เน็ต คือ โปรโตคอล TCP/IP ระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่จะสนับสนุนรูปแบบของ TCP/IP ได้ในตัวเอง เช่น Windows, Linux หรือแม้แต่ระบบ Unix ได้แก่ AIX, Solaris

สำหรับ Microsoft Windows 2000, XP เป็นต้นมา จะใช้โปรโตคอล TCP/IP เป็นหลักในการทำงานโดยยกเลิกการใช้งานโปรโตคอลแบบเก่าทั้งหมด (NetBEUI, NetBT) และใช้บริการจาก DNS Server ในการแปลงชื่อเครื่องเป็น iP Address แทน

เมื่อกล่าวถึง Protocal ให้ได้ทราบความหมายในเบื้องต้นไปแล้ว ก็จะขอเล่าเรื่อง OSI Model ต่อเลยนะครับ

โมเดลในรูปแบบ OSI ย่อมาจาก Open System Interconnection คือ โมเดลมาตรฐานที่ว่าด้วยการติดต่อสื่อสารข้อมูลผ่านระบบเครือข่าย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่ายแบบไหนหรือใช้เทคโนโลยีแบบใดก็ตามจะสามารถใช้โมเดลนี้ในการอ้างอิงหรืออธิบายการทำงานได้ทั้งหมด โดย OSI Model นั้นถูกกำหนดขึ้นโดย International Organization for Standardization

โครงสร้างของโมเดล OSI นั้น จะถูกแบ่งเป็น 7 ชั้น หรือ 7 Layer ตามภาพ โดยข้อมูลที่จะส่งจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งนั้น จะส่งเข้าสู่การทำงานของชั้นบนสุดก่อน (Application Layer) จากนั้นจึงจะไหลลงเรื่อยๆสู่ขั้นที่ต่ำกว่า ไปจนถึงล่างสุด (Physical Layer) เมื่อข้อมูลถูกปล่อยจากคอมพิวเตอร์ต้นทางไปยังปลายทาง คอมพิวเตอร์ปลายทางจะรับข้อมูลเข้าสู่การทำงานชั้นล่างสุดก่อน (Physical Layer) จากนั้นจึงจะทะยอยขึ้นสู่ชั้นที่สูงกว่า จนถึงชั้นบนสุด (Application Layer) จึงจะถือว่าเสร็จสิ้นการรับส่งข้อมูล

Sunday, November 08, 2009

SHOUTcast Server

ในตอนแรก ผมได้กล่าวถึงกระบวนการในการทำ Broadcast Radio ผ่านเว็บไซต์ไปในเบื้องต้นไปแล้ว ในเรื่องนี้จะเล่าถึง Software ที่ใช้ในการเชื่อมต่อสัญญาณใน External Server สำหรับผู้ใช้ที่มี IP จริงและต้องการตั้ง Server เพื่อทำการ Broadcast สัญญาณเองครับ

Sofware ที่ใช้ในการประมวลผลและเชื่อมต่อระหว่างผู้รับสัญญาณ (ผู้ฟัง) กับผู้ส่งสัญญาณนั้นมีหลายชนิดด้วยกัน แต่ที่นิยมใช้มากที่สุดและเป็น Freeware ที่จะกล่าวถึงคือ โปรแกรม SHOUTcast Server ของค่าย Nullsoft ซึ่งสามารถใช้ได้ในหลายระบบปฎิบัติการ อาทิ Windows 95 / 98 / ME/ NT / 2000 / XP , MAX Os X , Linux และ Solaris แต่ในบทความนี้จะกล่าวถึงเฉพาะการติดตั้งโปรแกรม SHOUTcast Server ในระบบปฎิบัติการ Windows นะครับ

ก่อนอื่นเราต้องไปทำการดาวน์โหลดโปรแกรม SHOUTcast Server ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จาก www.shoutcast.com โดยเลื่อกดาวน์โหลด SHOUTcast DNAS application สำหรับ Windows 98/ME/2000/XP ซึ่งในช่วงที่เขียนบทความนี้เป็น Version 1-9-8 ครับ หลังจากที่ทำการดาวน์โหลดเสร็จแล้วเราจะได้ไฟล์ shoutcast-dnas-1-9-8-windows.exe ให้ทำการ Install Program ครับ


ตามขั้นตอนการติดตั้ง ในส่วน select Optional ให้เลือก Server (Console Version) ครับ

หลังจากดำเนินการติดตั้งโปรแกรมเสร็จแล้ว ที่นี่ก็จะเป็นเรื่องสำคัญคือการ Configuration ค่าการใช้งานใน SHOUTcast DNAS application เพื่อปรับแต่งค่าการใช้งานต่างๆให้สมบูรณ์ครับ การตั้งค่าการใช้งานนั้นทำได้โดยเข้าไปแก้ไข File ชื่อ sc_serv.conf


ไฟล์นี้จะอยู่ที่ C: Program File: SHOUTcast

โดยส่วนสำคัญที่จะต้องแก้ไขนั้น มีจุดที่สำคัญ ดังนี้

; PortBase. This is the IP port number your server will run on. The
; value, and the value + 1 must be available. If you get a fatal error when
; the DNAS is setting up a socket on startup, make sure nothing else on the
; machine is running on the same port (telnet localhost portnumber -- if you
; get connection refused then you're clear to use that port). Ports < portbase="8000">

ส่วนนี้เป็นการกำหนด Port ที่จะใช้ในการติดต่อระหว่าง Server และผู้ใช้งาน โดยค่าเริ่มต้นจะกำหนดไว้ที่ Port 8000 ซึ่งเราสามารถเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมโดยต้องตรวจสอบว่าไม่ไปตรงกับค่าการใช้งานของโปรแกรมอื่น อาทิ ในระบบ Unix นั้นจะสงวน Port ที่ตั่ากว่า 1024 สำหรับ root เป็นต้น

; Password. While SHOUTcast never asks a listener for a password, a
; password is required to broadcast through the server, and to perform
; administration via the web interface to this server. This server should
; consist of only letters and numbers, and is the same server your broadcaster
; will need to enter in the SHOUTcast Source Plug-in for Winamp. THIS VALUE
; CANNOT BE BLANK.
Password=changeme (เปลี่ยนรหัสผ่านตรงนี้)

เป็นส่วนกำหนดรหัสผ่าน Password สำหรับการส่งค่า Streaming ค่า Broadcaster DJ. มาที่ SHOUTcast Server โดยโปรแกรม Broadcaster ที่นิยมใช้ ได้แก่ DSP Plug In สำหรับ Winamp และ SAM Broadcaster

; MaxUser. The maximum number of simultaneous listeners allowed.
; Compute a reasonable value for your available upstream bandwidth (i.e. if
; you have 256kbps upload DSL, and want to broadcast at 24kbps, you would
; choose 256kbps/24kbps=10 maximum listeners.) Setting this value higher
; only wastes RAM and screws up your broadcast when more people connect
; than you can support.
MaxUser=32

เป็นส่วนกำหนดจำนวนผู้ฟังสูงสุดที่สามารถเข้ามาฟังพร้อมกันได้ โดยต้องประเมินจากจำนวน Bandwith และ Bitrate ที่ใช้ โดยจะสามารถคำนวนได้ดังนี้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ากำหนด Bitrate อยู่ที่ 32 kbps และมี Bandwith ในการให้บริการ 2 MB. จะสามารถมีจำนวนผู้ใช้บริการสูงสุด = 2048/32 = 64 คน เป็นต้นครับ

ผมได้ทำการทดสอบ Setup Server ทำ iP Radio ในแบบที่กล่าวมาให้กับสถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ ในพระอุปถัมภ์ฯ SIBA และได้นำความรู้เรื่องการสร้าง Brand มาประยุกต์ใช้ จัดทำเป็นกิจกรรมเสริมให้กับนักเรียน,นักศึกษา ปรากฏว่าได้ผลตอบรับดีมากครับ ตอนนี้คนฟังเริ่มเยอะขึ้นมาก เลยถือโอกาสได้ทดสอบฝีมือการ Setup ซะเลย

ติดตามผลงาน SIBA iP Radio ได้ที่ www.siba.ac.th/ipradio ...
ส่งสัญญาณสดจาก SIBA ตลอด 24 ชั่วโมงครับ

iP Address with iP Radio

iP Address เกี่ยวอะไร ? กับ SIBA iP Radio !

หลายคนฟังคำว่า SIBA IP RADIO แล้วอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องใช้คำว่า IP แล้ว IP คืออะไร ? แล้วมีความสำคัญอย่างไร ? เดี๋ยววันนี้ผมจะมาอธิบายความหมายของ IP หรือ IP ADDRESS ให้ฟังครับ

อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในระบบเครือข่ายทุกชิ้นจะต้องมีหมายเลขประจำตัวที่ต้องไม่ซ้ำกันเพื่อใช้อ้างอิงถึงกันได้ ถ้าจะเปรียบง่ายๆก็เหมือนบ้านเลขที่ โดยบ้านแต่ละหลังจะต้องมีเลขที่บ้านและต้องไม่ซ้ำกันด้วยเพราะถ้าซ้ำกันแล้วไปรษณีย์ก็จะไม่สามารถส่งจดหมายให้ถึงมือผู้รับได้ สำหรับระบบเครือข่าย Internet TCP/IP นั้น จะใช้หมายเลขอ้างอิงที่เรียกว่า IP ADDRESS

การกำหนดหมายเลข IP ADDRESS จะต้องเป็นไปตามรูปแบบมาตรฐานตามที่กำหนดเท่านั้น คุณอาจสงสัยว่า IP ADDRESS มีความสำคัญอย่างไร คำตอบคือ ถ้าคุณต้องการติดต่อหรือใช้บริการจากคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งในระบบเครือข่ายคุณก็ต้องรู้ IP ADDRESS ของเครื่องๆนั้นด้วย (เหมือนกับตอนส่งจดหมายไปหาใครคุณก็ต้องรู้ที่อยู่หรือบ้านเลขที่ของผู้รับด้วย มิฉะนั้นก็จะไม่สามารถส่งจดหมายได้) ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการ Download File จากคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง คุณจะต้องใช้โปรแกรมในการโอน File อย่างเช่น FTP Client โดยระบุ IP ADDRESS ของเครื่องปลายทางที่คุณต้องการจะ Download File ด้วย เป็นต้น

ในทางปฏิบัติจริงคุณอาจไม่จำเป็นต้องจำหมายเลข IP ADDRESS ก็ได้ เนื่องจากมีวิธีการใช้ตัวอักษรย่อแทนหมายเลข IP ADDRESS ที่เรียกว่า Domain Name ทำให้จำง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น เว็บไซต์ของสถาบันสันติราษฎร์บริหารธุรกิจ ในพระอุปถัมภ์ฯ แทนที่คุณจะต้องจำเป็นหมายเลข 119.160.215.146 ก็ให้จำเป็น Domain Name แทนคือ http://www.siba.ac.th/ จะเห็นว่าจำง่ายและลืมยากกว่าตัวเลขมาก


สำหรับรูปแบบของ IP ADDRESS นั้น ในมุมมองของผู้ใช้จะเห็นเป็นตัวเลข 4 ชุด คั่นด้วยจุด ตัวอย่างเช่น 192.168.0.1 แต่เวลาเก็บค่าในคอมพิวเตอร์จะเป็นเลขฐาน 2 และไม่มีจุด (ตามรูปด้านล่าง) หากใครไม่ชำนาญการแปลงตัวเลขฐานสิบเป็นฐานสอง ก็ไม่ต้องตกใจครับ เพราะคุณสามารภใช้โปรแกรมเครื่องคิดเลขใน Windows ในโหมดของ Scientific โดยใส่่เลขฐาน 10 แล้วคลิกที่ Bin โปรแกรมก็จะแปลงเป็นเลขฐานสองให้ทันที

ตัวเลขแต่ละชุดจะใช้เนื้อที่ในหน่วยความจำ 8 บิต หรือ 1 ไบต์ ซึ่งทำให้สามารถเก็บข้อมูลในลักษณะเลขฐาน 2 ได้ถึง 256 คำ คือ ตั้งแต่ 0 ถึง 255 นั่นเอง ดังนั้น IP ADDRESS จึงใช้เนื้อที่ในการเก็บทั้งหมด 4 ไบต์ หรือ 32 บิต

ติดตามฟังผลงานของนักเรียน,นักศึกษา SIBA ผ่านสถานีวิทยุ Online SIBA iP Radio สดตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ www.siba.ac.th/ipradio

Sunday, November 01, 2009

Love is ... ? ... (^-^) !

ปกติ Blog นี้จะมีแต่เนื้อหาวิชาการ วันนี้ผมเลยขอนำเรื่องที่น่าจะทำให้อมยิ้มได้มาฝากครับ ... หลายวันก่อนมีคนส่งบทคำคล้องจองเรื่องราวเกี่ยวกับมุมมองของความรักมาให้ผมอ่าน อ่านแล้วก็รู้สึกได้ว่าขำ เพราะก็เป็นจริงอยู่หลายข้อ ... เลยคัดลอกมาให้ได้อ่านต่อกันอีกทีครับ ...

  • รัก........ สิ้นลมปราน..เป็น....... บทประพันธ์

  • รัก........ ไม่แปรผัน..เป็น......... นิยาย

  • รัก........ จนวันตาย..เป็น......... นิทาน

  • รัก........ ตลอดกาล..เป็น......... ละคร

  • รัก........ อยู่ทุกตอน..เป็น........ ละครน้ำเน่า

  • รัก........ ไม่เคยเก่า..เป็น......... จริงช่วงแรก

  • รัก........ ในความแปลก..เป็น.... คำฮิต

  • รัก........ ด้วยชีวิต..เป็น............ ลิเก

  • รัก........ ไม่โลเล..เป็น............. ความฝัน

  • รัก........ เธอนิรันด์..เป็น........... ชื่อเพลง

  • รัก........ นะตัวเอง..เป็น............ เด็กอมมือ

  • รัก........ ซื่อสัตย์..เป็น............. คำลวง

  • รัก........ หมดทรวง..เป็น.......... คำติดปาก

  • รัก........ เธอมาก..เป็น............. คำฮอต

  • รัก........ เดียวตลอด..เป็น......... ไปไม่ได้ ... !!!

What is Brand ... ?

มีโอกาสได้อ่านหนังสือ Brand Signature ... หนังสือเล่มนี้ สรุปเรื่องการบริหารแบรนด์ได้น่าสนใจดีมาก (เลยขอออกนอกเรื่องของ Technology ซะหน่อย) ผมเลยนำบางส่วนมาสรุปให้อ่านกันครับ ....

Brand Signature ให้คำนิยาม Brand ว่า ... แบรนด์ หมายถึง "ชื่อ, สี, สัญลักษณ์ หรือองค์ประกอบอื่นๆทั้งหมดที่รวมกันเป็นแบรนด์ สิ่งต่างๆเหล่านี้ต้องทำให้ "ผู้บริโภค" รู้ได้ว่าสินค้าของเราแตกต่าง และดีกว่าคู่แข่งที่เด่นชัดอย่างไร" นั่นคือ !!! ... จะต้องรวมถึง "สิ่งที่มองเห็นจับต้องได้" และ "สิ่งที่จับต้องไม่ได้แต่รู้สึกได้" การออกแบบแบรนด์ คือ การรวมสิ่งที่กล่าวมาในเบื้องต้น และพัฒนาสิ่งเหล่านั้น อาจประกอบด้วย ...

  • ชื่อ .... Name ... คือ สิ่งสำคัญที่สุด หลักสำคัญของการคิดชื่อใหม่สำหรับแบรนด์ คือ พยายามคิดชื่อสั้นๆ มีความหมายในตัวเอง สะท้อนความคิดและตัวตนของแบรนด์
  • มีโลโก้ หรือ สัญลักษณ์ ... รูปแบบที่ดีที่สุดนั้น "ไม่มีข้อสรุป" แต่ข้อสำคัญพึงระวังคือ ... ต้องคำนึงถึงการจัดวางและการนำไปใช้ในสื่อต่างๆขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นหัวจดหมายถึงบรรจุภัณฑ์
  • มีสี ... เป็นองค์ประกอบที่ทำให้แบรนด์โดดเด่น อีกทั้ง สี ยังเป็นตัวกำหนดในการพัฒนาสื่ออื่นๆ อีกด้วย "สีที่ไม่ได้เป็นแม่สี ให้ความรู้สึกสบายกว่าแม่สี แต่สีที่เป็นแม่สี จะกระตุ้นจุดสนใจได้มากกว่าสีธรรมดา"
  • มีแหล่งกำเนิดของแบรนด์ ... ควรนำภาพลักษณ์ของประเทศหรือแหล่งกำเนินของแบรนด์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ เพราะผู้บริโภคมักมีภาพลักษณ์ฝังใจกับภาพลักษณ์ของประเทศนั้นๆ
  • มีตัวตน ... บุคลิก (Personality) ... คือ "ลักษณะเสมือนคนของแบรนด์" ต้องทำให้โดดเด่น และเสมอต้นเสมอปลาย
  • มีภาษาพูดของแบรนด์ ... หมายถึง ภาษาที่ใช้สื่อสารผ่านสื่อรูปแบบต่างๆ เป็นสิ่งที่จะต้องสะท้อนตัวตน และบุคลิกของแบรนด์
  • มีตำแหน่งทางการตลาด (Positioning) ... องค์ประกอบที่จะสะท้อนสาระเชิงกลยุทธ์ของแบรนด์ "ถือว่ามีความสำคัญสูงสุด" ต้องทำให้ลูกค้ารู้สึกไปพร้อมๆกันว่า "ตำแหน่งดังกล่าวทำให้แบรนด์มีข้อดี มีข้อได้เปรียที่แตกต่าง และโดดเด่นกว่าคู่แข่ง" ต้องมีการวางกลยุทธ์เพื่อกำหนดตำแหน่งทางการตลาดอย่างรอบคอบ ...

ในการกำหนดทิศทางของแบรนด์ SIBA iP Radio ผมก็ได้นำความรู้จากหนังสือเล่มนี้ไปใช้ได้ประโยชน์มากมาย ทำให้สามารถกำหนดรูปแบบที่สื่อสารความเป็นตัวตนของเราได้ถูกต้องและชัดเจนขึ้น

ติดตามผลงาน SIBA iP Radio ได้ที่ www.siba.ac.th/ipradio ครับ

Saturday, October 31, 2009

What's Adobe Authorware ?

[31/10/2009] ได้ไปเข้าเรียน class MIE. ในวิชา Programmed Instruction กับ ผศ.ดร.ศิริรัตน์ เพ็ชร์แสงศรี เกี่ยวกับแนวความคิดในการจัดทำสื่อแบบคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) เลยกลับมาค้นคว้าต่อเจอบทความเกี่ยวกับโปรแกรม Adobe Authorware จึงนำมาสรุปให้อ่านกันครับ ...

Adobe Authorware เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา CAI มันถือกำเนิดขึ้นจากห้องทดลองวิจัยและพัฒนาเพลโท (PLATO R&D labs) ที่บริษัท Control data ผู้ที่สร้างมันขึ้นมาคือ Michael W. Allen โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้มันเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาในเรื่องของต้นทุนการใช้เงิน เวลา และทรัพยากรมนุษย์มากเกินความจำเป็น ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถในการโต้ตอบกับผู้ใช้ เป็นการลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้คนทั่วไปสามารถถ่ายทอดทักษะ ความรู้ความเข้าใจของพวกเขาจากซอฟต์แวร์ที่สร้าง ไปสู่บุคคลอื่นที่ปรารถนาที่จะเรียนรู้

ปัจจุบัน Authorware ถูกพัฒนามาถึงรุ่นที่ 7 ซึ่งมีคุณลักษณะเด่นดังนี้ … “สร้างสรรค์ทุกสิ่งทุกอย่าง จาก Web-based tutorials ไปจนถึง simulations อันซับซ้อน รวมเสียงเข้ากับวิดีโอด้วย Macromedia Authorware ซึ่งเป็นทางออกในการสร้างสรรค์สื่อสำหรับ eLearning ส่งผ่านแอพลิเคชันของท่านบนเว็บ เครือข่ายของหน่วยงาน หรือ CD-ROM ติดตามผลการเรียนของผู้เรียนได้ง่าย และให้ผลตอบแทนคุ้มค่าการลงทุน”

Authorware จัดเป็นเครื่องมือนิพนธ์ (Authoring tool) เครื่องมือนิพนธ์ หมายถึง โปรแกรมประยุกต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างงานมัลติมีเดีย ในการใช้มัน คุณไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญในเรื่องศิลปะของการโปรแกรมแบบเก่า เครื่องมือนิพนธ์มักพึ่งพาอาศัยไอคอนหรือวัตถุ (objects) แทนฟังค์ชันหนึ่งๆ เช่น การแสดงข้อความและภาพ การเล่นเสียง หรือการสร้างการโต้ตอบ



ถึงแม้ว่า Authorware จะเป็นซอฟต์แวร์ที่มีผู้นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2550 ก็ได้เกิดข่าวใหญ่ เมื่อบริษัท Adobe ได้ ประกาศยุติการพัฒนา Authorware (Authorware end-of-development (EOD)) ยังผลกระทบต่อบริษัทใหญ่ๆ จำนวนมากทั่วโลก รวมถึงนักพัฒนามัลติมีเดีย มีการแนะนำให้นักพัฒนาเปลี่ยนมาใช้เครื่องมืออื่นๆ เช่น Acrobat Professional, Presenter, Connect, Captivate, Director, Dreamweaver, Flash และ Flex ฯลฯ ทั้งนี้ผมอยากเสนอว่า นักพัฒนาไม่ควรพึ่งพาเครื่องมือหรือซอฟแวร์ตัวใดตัวหนึ่งเพียงตัวเดียว การเลือกใช้เครื่องมือใดนั้น ย่อมขึ้นกับความต้องการในการออกแบบ และประสิทธิภาพของเครื่องมือนั้นๆ เองครับ

Friday, October 30, 2009

Broadcast Radio Online ?

มีความรู้เกี่ยวกับการทำวิทยุ Online หรือ iP Radio มาแบ่งปันให้อ่านกันครับ ตอนนี้ผมทำ SIBA iP Radio ให้นักเรียนที่ SIBA เป็นกิจกรรมให้เด็กๆได้มีส่วนร่วมและแสดงออกในทางสร้างสรรค์ ได้รับการตอบรับดีมาก การทำนั้นก็ไม่ยากเลย ลองศึกษากันดูนะครับ

การ Broadcast วิทยุผ่านอินเตอร์เน็ตนั้น อาจถูกเรียกในศัพท์ต่างๆ เช่น Radio Online , Internet Radio ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเรียกว่าอะไร เอาเป็นว่าตามหลักการมันก็ คือ การฟังเพลงหรือวิทยุผ่านระบบอินเตอร์เน็ตนั่นเอง ซึ่งก็คล้ายกับการรับฟังผ่านเครื่องวิทยุธรรมดา แต่เจ้าสิ่งนี้จะฟังได้จากทุกที่ที่เชื่อมต่อด้วยระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต โดยการรับสัญญาณนั้นจะต้องใช้โปรแกรม เช่น Windows Media Player , Real Player , Winamp หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่มีไว้สำหรับแปลงสัญญาณ

จากรูปด้านบน จะเห็นได้ว่าการทำ Broadcast นั้น จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ ส่วนแรก คือ Server จะมีโปรแกรมทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมและเข้ารหัสสัญญาณระหว่างผู้รับสัญญาณ (ผู้ฟัง) และผู้ส่งสัญญาณ โปรแกรมที่นิยมใช้ ได้แก่ โปรแกรม SHOUTcast Server ของค่าย Nullsoft (เป็น Freeware ครับ) ส่วนที่ 2 คือ ผู้ส่งสัญญาณ (จากรูปคือ My Computer) ในเครื่องผู้ส่งสัญญาณนั้น จะมีโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการแปลงสัญญาณหรือ Encoding ซึ่งที่นิยมใช้ได้แก่ DSP Plug In Winamp และ SAM Broadcaster โดยโปรแกรมดังกล่าวจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณเสียงที่ Encode แล้วไปยัง External Server ส่วนสุดท้าย คือ ผู้รับสัญญาณ จะมีโปรแกรมที่ทำหน้าที่เรียกสัญญาณจาก Server แล้วแปลงกลับมาเป็นสัญญาณเสียงให้รับฟัง ซึ่งผู้ส่งสัญญาณอาจเขียน Script เพื่อให้ผู้รับสัญญาณเรียกฟังเสียงผ่านหน้า Web Browser ได้

ที่กล่าวไปเบื้องต้นทั้งหมดนั้น หลายคนอ่านแล้วอาจรู้สึกเหมือนว่าจะมีขั้นตอนในการทำที่ยุ่งยากซับซ้อน แต่ความจริงแล้วไม่ยากเลยครับ โดยขั้นตอนการ Setup โปรแกรมสำหรับเป็น Server และ Broadcaster นั้นผมจะอธิบายให้ฟังอย่างละเอียดในเรื่องต่อไปนะครับ

สามารถฟังตัวอย่างวิทยุ Online ได้ที่ www.siba.ac.th/ipradio

Thursday, October 29, 2009

Seven Key Commitments !

[28/10/2009] ได้มีโอกาสเข้ารับการอบรมจากวิทยากรที่มีชื่อเสียงด้านงานบริการ อ.ทวีวรรณ กมลบุตร ในหลักสูตร Service Excellence มีความประทับใจในเนื้อหา Seven Key Commitments เป็นอย่างมากเลยอยากนำมาเขียนเล่าให้ได้อ่านกันครับ

Seven Key Commitments คือ การให้ "คำมั่นสัญญา 7 ข้อ" ตอนแรกฟังแล้วรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ทำไมกุญแจแห่งความสำเร็จของเราถึงต้องเกี่ยวกับคำมั่นสัญญา ???

ในการใช้ชีวิตนั้น หากเราสามารถตั้งเป้าหมายโดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ได้ตาม 7 ข้อนี้ และสามารถทำได้จริง ก็จะเป็นหนทางสู่ความสำเร็จได้แน่นอน ...

Seven Key Commitments ประกอบด้วย
  • Self Commitments

  • People Commitments

  • Customer Commitments

  • Task Commitments

  • Organization Commitments

  • Family Commitments

  • Public Commitments

ในการอบรมท่านวิทยากรให้เราเขียนทั้ง 7 ข้อ "ภายในเวลาแค่ 5 นาที" ตอนแรกผมสงสัยมาก ว่าทำไมให้เวลาน้อยขนาดนั้น แต่พอเขียนเสร็จแล้วย้อนกลับไปอ่าน "ก็คลิก ! ทันทีอย่างไม่น่าเชื่อเลยครับ" ว่าทั้ง 7 ข้อที่เราเขียนนั้น 7 ข้อที่คิดอะไรได้ก็เขียนเพราะ "รีบ" มันเป็น 7 ข้อ ที่อยู่ใต้จิตสำนึกของเราจริงๆ เป็นเรื่องที่ตั้งใจอยากที่จะทำมานานแล้ว แต่ไม่ได้ทำสักที

การที่เราได้เขียนคำมั่น และได้ใส่เงื่อนไขทางเวลาที่เราคิดไว้ว่า "ต้องเป็นให้ได้" นั้น ทำให้เกิด Direction ในการใช้ชีวิตได้ดีมาก ทำให้เกิดความมุ่งมั่น และตั้งใจที่จะเอาชนะมันให้ได้

หลังจากจบการอบรมในวันนั้น ผมได้นำเอาความรู้ในส่วนนี้มาประยุกต์ใช้ในการทำงาน โดยให้ทีมงานของเราเขียน Seven Key Commitments ทำให้ผมได้รู้ว่าลูกทีมคิดอะไร และมีความคาดหวังกับอะไร ทำให้ผมสามารถจะบริหารทีมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น